ชุดไทยดั้งเดิม: วัฒนธรรมและรูปแบบของเสื้อผ้าไทยแบบดั้งเดิม
กรุงเทพฯ ไม่ได้มีดีแค่วัด ตลาด หรืออาหารรสเลิศ แต่ยังเป็นศูนย์กลางของ การแสดงออกทางวัฒนธรรมที่มีชีวิตชีวา หนึ่งในประสบการณ์ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด คือการใส่ชุดไทยโบราณซึ่งกลายเป็นกิจกรรมยอดนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสวัฒนธรรมไทยอย่างแท้จริง อาหารรสเลิศ
ประเทศไทยมีรูปแบบชุดไทยที่หลากหลาย ซึ่งมักใส่ในเทศกาล พิธีสำคัญ และโอกาสพิเศษต่าง ๆ ชุดเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความหลากหลายทางภูมิภาคและมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าของไทย
อยากรู้จักชุดไทยดั้งเดิมมากกว่านี้ใช่ไหม? เราขอพาคุณไปรู้จักกับประวัติศาสตร์และวิวัฒนาการของชุดไทย พร้อมทั้งมอบโอกาสพิเศษให้กับนักท่องเที่ยวได้สวมใส่ชุดไทยแท้และเก็บภาพความประทับใจผ่านการถ่ายภาพสุดตระการตา!
ประวัติของชุดไทยดั้งเดิม
เครื่องแต่งกายไทยดั้งเดิม หรือ “ชุดไทย” ไม่ได้เป็นเพียงแค่สิ่งที่ผู้คนสวมใส่ แต่เป็นสัญลักษณ์ที่สะท้อนถึงอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และงานศิลป์ของประเทศไทย ชุดไทยมีตั้งแต่แบบเรียบง่ายที่ใช้ในชีวิตประจำวันไปจนถึงชุดพิธีการที่วิจิตรตระการตา โดยมักจะมีลวดลายละเอียด สีสันสดใส และผ้าเนื้อดีนิยมสวมใส่ในงานพระราชพิธี งานทางการ และโอกาสพิเศษต่าง ๆ ซึ่งลักษณะของชุดจะแตกต่างกันไปตามวาระโอกาส ภูมิภาค และเพศ
ชุดไทยในยุคสยาม
ในยุคสยามเมื่อประมาณ 900 ปีก่อน การแต่งกายไทยโบราณได้รับอิทธิพลอย่างมากจากอารยธรรมอินเดียและเขมร ในช่วงเวลานี้ ทั้งชายและหญิง มักสวมผ้าจูงหาง หรือ โจงกระเบน ซึ่งเป็นผ้าฝ้ายแบบยูนิเซ็กซ์โดยไม่มีเสื้อปิดท่อนบน ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติในสมัยนั้น
ชุดไทยในสมัยกรุงศรีอยุธยา
ในยุคกรุงศรีอยุธยา (พ.ศ. 1893–2310) ช่วงเวลานี้มีบทบาทสำคัญในการพัฒนารูปแบบของชุดไทย แม้ว่าเสื้อผ้าของชาวบ้านทั่วไปจะยังคงเรียบง่ายเหมือนเดิม แต่การแต่งกายของชนชั้นสูงได้มีการพัฒนาอย่างชัดเจน ชายและหญิงในชนชั้นสูงนิยมสวม “ผ้าทรงหางสามหาง” และ “ผ้านุ่งแบบไทย” ซึ่งเป็นผ้ายาวประมาณ 3 เมตร กว้าง 1 เมตร โดยพันรอบเอว ม้วนปลายผ้า ส่งผ่านระหว่างขาแล้วเหน็บไว้ด้านหลังอย่างประณีต
ชุดไทยในสมัยราชวงศ์จักรี
ในช่วงต้นของราชวงศ์จักรี ภายใต้รัชสมัยของ รัชกาลที่ 1 ถึง รัชกาลที่ 4
ประชาชนยังคงนิยมสวมใส่โจงกระเบนแบบเขมรโบราณ (Nguyen Khe) ซึ่งมีต้นแบบมาจากอินเดีย ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) เครื่องแต่งกายไทยได้เริ่มผสมผสานกับแฟชั่นตะวันตกมากขึ้น เป็นผลมาจากกระแสการปรับตัวตามแบบอารยธรรมตะวันตก จึงเกิดเป็น สไตล์ "ไทยผสมตะวันตก" ทั้งในหมู่ชนชั้นสูงและราชสำนัก
วิวัฒนาการของชุดไทยในยุคปัจจุบัน
เครื่องแต่งกายไทยดั้งเดิมยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนักจนกระทั่งช่วงกลางศตวรรษที่ 19 เมื่อราชวงศ์ไทยเริ่มมีการประกาศ ระเบียบการแต่งกายสำหรับประชาชน ซึ่งกำหนดให้ทั้งชายและหญิงต้องสวมเสื้อปิดท่อนบน ทำให้ความนิยมในผ้าไหมไทยแบบดั้งเดิมลดลง และชุดตะวันตกเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นในหมู่คนทั่วไป
หลังจากช่วงปี พ.ศ. 2500 เป็นต้นมาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้ทรงริเริ่มฟื้นฟูศิลปหัตถกรรมไทยโดยเฉพาะการทอผ้าไหมมัดหมี่ เพื่อสร้างอัตลักษณ์ของชาติขึ้นมาใหม่ พระองค์ทรงเชิญนักออกแบบและผู้เชี่ยวชาญด้านการปักผ้าและการทอจากนานาชาติเพื่อออกแบบชุดไทยที่มีแรงบันดาลใจจากราชวงศ์ต่าง ๆ และในที่สุดได้ทรงกำหนด "ชุดไทยพระราชนิยม 8 แบบ" สำหรับสุภาพสตรีซึ่งปัจจุบันถือเป็นต้นแบบของชุดไทยร่วมสมัยที่ใช้ในงานพิธีและโอกาสสำคัญต่าง ๆ ทั่วประเทศ
9 ชุดไทยพระราชนิยมยอดนิยม
1. ชุดไทยจักรี (Chakkri)
ชุดไทยจักรีเป็นหนึ่งในชุดไทยที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายและเป็นแบบทางการประกอบด้วยผ้านุ่งแบบจีบหน้าหนึ่งจีบ (ผ้าซิ่นจีบหน้านาง) และสวมสไบเฉียง (สไบเฉียงผืนยาว) พาดไหล่ มักใช้ในงานพระราชพิธี และงานมงคลสมรสชุดนี้แสดงถึงความงดงาม สง่างาม และความอ่อนช้อยของผู้หญิงไทยได้อย่างชัดเจน
2. ชุดไทยศิวาลัย (Siwalai)
ชุดไทยศิวาลัยเป็นชุดราตรีแบบเป็นทางการ มักสวมในงานพระราชพิธี งานเลี้ยงรัฐพิธี หรือโอกาสสำคัญยามค่ำคืนประกอบด้วย ผ้าซิ่นไหมแบบยาวและเสื้อแขนยาว คอกลมปิดสูง มีปก หรือผ้าคลุมไหล่แบบติดตัว เนื้อผ้ามักเป็นผ้าไหมปักลวดลายสวยงามเพื่อแสดงความสุภาพและความหรูหรา
3. ชุดไทยจักรพรรดิ (Chakkraphat)
จักรพรรดิ แปลว่า "พระจักรพรรดิ" เป็นชุดที่มีความวิจิตรอลังการ ใช้ในงานพระราชพิธี งานมงคลสมรสระดับสูง หรือพิธีใหญ่หลวง ลักษณะคล้ายชุดไทยจักรี แต่ต่างกันที่ใช้ สไบสองชั้น พาดไขว้บริเวณอก ชุดนี้มักมีหลายชั้น ใช้ผ้าปักลวดลายละเอียด และแสดงถึงฐานะและความยิ่งใหญ่ของผู้สวมใส่
4. ชุดไทยบรมพิมาน (Boromphiman)
ชุดไทยบรมพิมานเป็นชุดไทยแบบทางการที่สง่างาม มักสวมใส่โดยสตรีใน งานพระราชพิธีสำคัญ งานเลี้ยงรัฐพิธี และงานพิธีการยิ่งใหญ่ ประกอบด้วย ผ้านุ่งยาวทอลายหรูหราคู่กับเสื้อแขนยาวคอตั้งปักลวดลายวิจิตร
5. ชุดไทยเรือนต้น (Ruean Ton)
ชุดไทยเรือนต้น เป็นชุดไทยที่ดูเรียบง่ายและสวมใส่สบายที่สุดในบรรดาชุดไทยพระราชนิยม เหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน หรือในโอกาสที่ไม่เป็นทางการ ประกอบด้วย เสื้อแขนสั้นหรือแขนสามส่วน ไม่มีปก และติดกระดุมด้านหน้า ใส่คู่กับผ้าถุงทรงกระบอกยาวคลุมข้อเท้าให้ลุคเรียบง่ายแบบไทยแท้
6. ชุดไทยจิตรลดา (Chitlada)
ชุดไทยจิตรลดาเป็นชุดพิธีการช่วงกลางวันที่นิยมใส่ในงานราชการ งานต้อนรับ หรือโอกาสทางการที่ไม่เป็นพิธีเต็มยศ ต่างจากชุดไทยสไตล์อื่น ๆ ตรงที่ ไม่มีสไบพาดไหล่ เสื้อแขนยาวเป็นจุดเด่นหลักของชุดโดยมักใช้ผ้าไหมที่มีลวดลายละเอียดอ่อนเพื่อเพิ่มความหรูหรา
7. ชุดไทยอัมรินทร์ (Amarin)
ชุดไทยอัมรินทร์ เป็นชุดราตรีแบบเต็มยศที่หรูหรามาก นิยมใช้ในงานเลี้ยงพระราชทาน งานต้อนรับระดับสูง การชมการแสดง หรือโอกาสที่ต้องการความสง่างามเป็นพิเศษ ประกอบด้วย เสื้อแขนยาว คอตั้ง ติดกระดุมด้านหน้า ตัดเย็บจากผ้าไหมชั้นดี ชุดนี้ไม่ใช้เข็มขัด เหมือนชุดอื่นๆ แต่เน้นการตกแต่งด้วยเครื่องประดับหรูหราแทน
8. ชุดไทยดุสิต (Dusit)
ชุดไทยดุสิต เป็นชุดไทยที่ได้รับอิทธิพลจากแฟชั่นตะวันตก มีลักษณะคล้ายกับชุดราตรียุโรป จุดเด่นคือ ดีไซน์แขนกุด คอกลม และมักตัดเย็บจากผ้าไหม ชุดนี้อาจเป็นแบบ ชิ้นเดียว (เดรส) หรือ แยกชิ้นบน–ล่าง (เสื้อกับกระโปรง) ก็ได้ เหมาะสำหรับงานราตรีหรือโอกาสที่ต้องการความหรูหราในแบบไทยผสมสากล
9. เสื้อพระราชทาน (Suea Phraratchathan)
เสื้อพระราชทาน เป็นเครื่องแต่งกายสุภาพสำหรับบุรุษที่ถือว่าเป็นชุดไทยแบบทางการ ลักษณะเป็นเสื้อแขนยาว คอตั้ง มีกระดุมหน้าและมักทำจากผ้าไหมหรือผ้าทอลวดลาย นิยมสวมคู่กับกางเกงขายาว ใช้ในงานพิธี งานราชการ หรือโอกาสทางการต่าง ๆ
สัมผัสประสบการณ์ชุดไทยดั้งเดิมที่ โพอิทิค โอเรียลทัล สตูดิโอ
สำหรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่ต้องการดื่มด่ำกับวัฒนธรรมไทยแท้สตูดิโอของเราเปิดโอกาสให้คุณได้มาสวมใส่ชุดไทยอันงดงาม พร้อถ่ายภาพสุดประทับใจในสไตล์ไทยที่เปี่ยมไปด้วยความสง่างาม
ที่นี่เรามีชุดไทยแท้หลากหลายแบบ ให้เลือกตามสไตล์และโอกาส บริการจัดแต่งทรงผมและแต่งหน้ามืออาชีพ พร้อมคำแนะนำในการสวมใส่ชุดอย่างถูกต้องจากผู้เชี่ยวชาญ ทุกการถ่ายภาพจัดขึ้นในตูดิโอที่มีเครื่องปรับอากาศเต็มรูปแบบ พร้อมฉากหลังและพร็อพตกแต่งสวยงามเพื่อเสริมความโดดเด่นให้ภาพถ่ายของคุณ
นอกจากนี้ เรายังมีบริการหลายภาษา ได้แก่ ภาษาไทย อังกฤษ และจีน เพื่อให้ผู้มาเยือนจากทั่วโลกได้รับประสบการณ์ที่ราบรื่นและน่าประทับใจ
ทำไมต้องเลือกโพอิทิค โอเรียลทัล สตูดิโอ กรุงเทพฯ
- มีชุดไทยและชุดจีนแท้ให้เลือกหลากหลายสำหรับทุกเพศและทุกวัย
- บริการถ่ายภาพครบวงจร: ถ่ายภาพ แต่งหน้าทำผม และรีทัชภาพอย่างมืออาชีพ
- มีบริการหลายภาษา ได้แก่ ภาษาไทย อังกฤษ และจีน เพื่อให้การสื่อสารเป็นไปอย่างราบรื่น
- อาคาร 5 ชั้น กว้างขวาง ให้ประสบการณ์การถ่ายภาพที่สะดวกสบายและไม่เร่งรีบ
- ถ่ายภาพในสตูดิโอ ติดแอร์เต็มรูปแบบทุกชั้น
- มีอุปกรณ์ประกอบฉากแบบมืออาชีพ พร้อมฉากหลังมากกว่า 100 ธีม
- เหมาะสำหรับครอบครัว กลุ่มเพื่อน หรือคู่รักทุกเชื้อชาติ
- เดินทางสะดวก: จาก MRT สถานีคลองเตย (ทางออก 1) เดินเพียง 5–6 นาทีเท่านั้น
บันทึกภาพการเดินทางเชิงวัฒนธรรมของคุณ
ทำให้ทริปกรุงเทพฯ ของคุณน่าจดจำไม่รู้ลืม ด้วยการสัมผัสความงามของชุดไทยดั้งเดิมและเรียนรู้ความหมายทางวัฒนธรรมที่ซ่อนอยู่ในแต่ละรายละเอียด
ที่โพอิทิค โอเรียลทัล สตูดิโอ กรุงเทพฯ คุณจะได้สัมผัสความงดงามของชุดประจำชาติไทยและการถ่ายภาพที่สะท้อนตัวตนและเอกลักษณ์ความเป็นไทย
📸 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม หรือต้องการจองคิวถ่ายภาพชุดไทย คลิกที่นี่!